การพระศาสนา

เท่าที่ผมพบ มีครูบาอาจารย์และพระภิกษุไม่ธรรมดามากันมาก
อาทิ ท่านเจ้าอาวาสวัดทอง ที่อยุธยายกคณะมา ๑ คันรถ
ท่าน อ.มหาสุเทพ จากวัดสังเวชฯ กทม. ก็มาเอง 
ท่านวิชิต อดีต อาจารย์ ดร.จากมหิดลก็มาด้วย
แล้วยังพระจากวัดอุโมงค์ เชียงใหม่ วัดป่าสุคะโต จากชัยภูมิ ฯลฯ

เช้าวันนี้ ผมอาสานำท่านไปพระธาตุ 
เริ่มด้วยเข้ากราบท่านเจ้าคุณเทพวินยาภรณ์
ที่เมตตาทักทายและให้แนวทางว่าจะต้องรักษาศรัทธาประชาชนไว้ให้มาก
จากนั้นบอกให้พาไปพระปัญญาด้วย โดยมีท่านพระครูสิริฯ มาร่วมด้วย
๓ ชม.วันนี้ ผมถวายคณะพระท่านหลายประการ

จากพระวิหารหลวง ที่ท่านพระครูสิริฯ 
เสริมเติมหลังนำบูชาพระศากยมุนีศรีธรรมราชแล้ว ว่า 
“ที่นี่เป็นศาสนสถานกลางของชาวพุทธทั้งนั้น 
ที่วัดพระธาตุรับธุระดูแลรักษาเปิดให้ทุกฝ่ายคณะมาขอใช้
ตามลำดับก่อนหลังการจอง ไม่มีอัตราค่าอะไรทั้งสิ้น”
ผมเติมว่า
“สำหรับชาวใต้ไกลถึงมาเลย์สิงคโปร์ตลอดปลายแหลม
ไม่มีที่ไหนเสมอที่นี่ ในการมาบวช”

จากนั้นจึงนำพระท่านเข้าลานองค์พระสู่วิหารพระม้า
หลังอธิบายเรื่องภพภูมิที่เชิงบันไดขึ้นลานประทักษิณ
กับภาพการออกบวชของพระบรมศาสนา
แล้วท่านมหาสุเทพ นำสวดมต์บูชาพระธาตุชุดใหญ่
จึงนำไปลานประทักษิณ ชี้บอกหลายอย่าง แต่ที่ไม่พลาดคือ
“ที่นี่ หลวงพ่อปัญญาฯ บอกผมว่า 
มาฝึกฝนไต่บันไดดารากับ ๓ ธรรมาสน์ รอบพระด้านที่ทับเกษตรนี้
จนได้ขึ้นธรรมาสน์ตะวันออก ก็หาญกล้าไปต่อ”
ซึ่งถือเป็นอีกกระบวนการพัฒนาพระธรรมกถึกของที่นี่มาแต่โบราณกาล

ที่ “ศรีธรรมราชพิพิธภัณฑ์” 
ณ พระวิหารเขียน วิหารโพธิ์ลังกา และ วิหารคดส่วนต่อเติม
ผมชี้ชวนถึงการบริหารจัดการศรัทธาและการเรียนรู้
ที่พระธาตุนครทำไว้อย่างเยี่ยมยอด
กล่าวคือ เก็บรักษา ทำทะเบียน และ จัดแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์
สืบมาจนแม้ทุกวันนี้ มีสิ่งของสารพัดจิปาถะ 
เล็กใหญ่ เลอค่า กระจุกกระจิก ฯลฯ
จัดแสดงเป็นสัดส่วน แม้เพียงร้อยละ ๒๐ ของที่มีการถวายไว้ทั้งหมด
หากวัดวาอารามจะทำให้ได้อย่างนี้ 
ประเทศไทยและวัดวาอารามของเรานี้จะวิเศษขนาดไหน ?

สุดท้าย ก่อนกราบลา
เราตกลงกันว่า เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม
จะจัดเวทีเรียนรู้เรื่องนี้กันอีกครั้งที่วัดพระธาตุและเมืองนคร
ในนามวัดพระธาตุฯ / มมร.วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช
สวนโมกข์กรุงเทพ / คข.ฯ ธรรมวาที
และกลุ่มคิลานธรรม กับ อ.โสรีช์
เพื่อขับเคลื่อนการนี้กันที่เมืองนครและในพื้นที่ภาคใต้
รวมทั้งในวงพระพุทธศาสนาไทยร่วมกันต่อ ๆ ไป

ใครสนใจ กรุณารอเวลานะครับ
(ขออภัยไม่มีรูป อ.โสรีช์เลยครับ พอดีกล้องผมหมดถ่าน)

๒๘ มิย.๕๙