logo_new.jpg

Taming Thyself is Dhamma Practice
การฝึกตนนั่นแหละ...คือการปฏิบัติธรรม
(bunchar.com การพระศาสนา 20160902_1)

พระอริยด้วยกัน ท่านกล่าวว่ารู้จักกันได้ในเมื่อมีญาณเครื่องกำหนดรู้ใจผู้อื่น คนธรรมดายากที่จะรู้จักได้ เช่น อุปาชีวกหรือภิกขุปัญจวัคคีย์ ได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ยังไม่ทราบว่าพระองค์เป็นผู้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคล เป็นต้น ต่อเมื่อได้ฟังธรรมและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่ำบ้างแล้ว จึงรู้จัก และขอบรรพชา

ข้อสำคัญของการเป็นอริยบุคคล อยู่ตรงที่การเรียนรู้จักชีวิตของตนเอง มรรคผลไม่ใช่เป็นสิ่งนอกเหนือจากความสามารถอันเป็นวิสัยแห่งมนุษย์ ! มรรคผลเป็นของสำหรับปุถุชน ! พระอริยบุคคลท่านย่อมไม่ต้องการมรรคผล เพราะท่านได้บรรลุแล้ว เช่นเดียวกับคนมีของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงพอแล้วย่อมไม่ต้องการอีก

ปุถุชนยึดหน่วงเอามรรคผลได้เป็นแน่ ด้วยการตั้งหน้าปฏิบัติด้วยใจอันบริสุทธิ์ ปราศจากความคดโกงหรือเหลวไหลหลอกตัวของตัวเอง

ทางแห่งมรรคผลนั้นทรงวางไว้เป็นบทเรียนสำหรับปุถุชนโดยเฉพาะ นึกดูเถิด ! ถ้าไม่ใช่สำหรับปุถุชนแล้วจะสำหรับใครเล่า ถ้าเรามี "ความนับถือตัวเอง" เท่าที่มนุษย์หรือสัตว์มีใจสูงจะพึงมีแล้ว เราไม่ควรจะหลีกหน้าที่อันนี้ของเรา หน้าที่คือการแสวงสุขให้แก่ตนตามกรุยทางที่พระองค์ทรงประทานให้ ที่เป็นเพศต่ำก็ยึดเอาพอสมกับเพศต่ำ เพศสูงก็ยึดเอาพอสมกับเพศสูงและทำตนเป็นตัวอย่างของเพศต่ำพร้อมกันไป.

การแสวงสุขคือการปฏิบัติธรรม.
การก้าวจากที่มืดสู่ที่สว่างนั่นแหละคือการปฏิบัติธรรม !
การฝึกตนเพื่อชนะความทุกข์อันเป็นของธรรมดาสำหรับมนุษย์ นั่นแหละเป็นการปฏิบัติธรรม !

ที่มา การปฏิบัติธรรม โดย พุทธทาส ภิกขุ หน้า ๕๗-๕๘


ภาพ พระบรมธาตุไชยา และ วัดแก้ว แห่งเมืองไชยาโบราณ เมื่อวันที่ ๒๙ สค.๕๙

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//