บัญชาชีวิต

กำลังนี้ที่วลัยลักษณ์น่าจะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
อยู่กับการฉลองอายุครบ ๒๕ ปี ที่จะไปกันต่อ
ผมก็มานั่งฟังการชี้แจงจาก สสส.สำนัก ๖
สร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม 
ที่เคยมาร่วมด้วยช่วยกันเป็นกรรมการบริหารแผนอยู่ ๑๐ ปี จนรู้ตัวว่านานเกินแล้ว ก็เลยขอเลิกออกไปเมื่อเกือบ ๓ ปีก่อน แล้วได้รับคำชวนให้มาร่วมเวทีน้อย ๆ เพื่อช่วยพิจารณาโครงการชุมชนน่าอยู่รอบใหม่ ที่เคยร่วมคิดขับเคลื่อนไว้เมื่อ ๗ ปีก่อน

ตอนที่ผมขอลาออกจากวลัยลักษณ์
ด้วยเหตุผลคำขอลาออกว่า
"เพื่อไปใช้ชีวิตแนวใหม่"
คือขอเลิกเป็นพนักงานหรือลูกจ้างใครอีกต่อไป
ขอเลือกและพิจารณาเองว่าอะไรอยากทำ จึงจะทำ จนออกมาเป็นคำที่ตอบเวลาคนถามว่าอาชีพอะไร "อาสาสมัครอิสระสาธารณประโยชน์" ครับผม คือ ทำแบบอาสาไม่มีเงื่อนไข เป็นอิสระเสรีไร้สังกัด มุ่งประโยชน์แห่งสาธาระเป็นสำคัญ"

ตอนนั้น คุณหมอศุภกร บัวสาย ผจก.สสส.ขณะนั้น โทรหาผมบอกว่าพี่ว่างอยู่ มาช่วยทำอะไรที่ สสส.ได้ไหม ? แล้วผมก็ตกหลุมช่วยนี่นั่นโน่นในฐานะกรรมการบ้าน อนุกรรมการบ้าง คณะทำงานบ้าง ฯลฯ กับ สสส.หลายสิ่ง รวมทั้งรับ คก.ไปขับเคลื่อนบางอย่างทั้งที่นคร ทั่วทั้งภาคใต้ และ วงเวทีสร้างสุขทั่วทั้งประเทศ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดบทบาทลงทั้งที่ขอลดเองและที่ สสส.ขอเลิกใช้

แล้วเลิกสิ้นเชิงเมื่อครบวาระ ๑๐ ปี
ในฐานะ กก.บริหารแผนสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม ที่ท่าน อ.หมอบรรลุ เมตตากับผมมากแม้คุณหมอกฤษฎา จะเวียนทาบทามถึงจะให้ไปเป็นกรรมการใหญ่ของ สสส.แต่ผมบอกว่าพอแล้ว

วันนี้ได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย
แล้วจะเล่ารายงานมาหากคิดว่าจะเป็นประโยชน์ครับ.

๒๙ มีค.๖๐