เพื่อแผ่นดินเกิด

ผมตอบไม่ถูก เพราะระยะหลังมานี้ 
สงกรานต์เลิกไปไหนแล้วครับ

มีความสุขอยู่ที่บ้าน ไม่ เมืองนคร ก็ กทม.
ขอได้สรงน้ำพระสิหิงค์ และอยู่กับแม่กับน้าก็พอแล้ว

ทั้งนี้ผมเคยเสนอหลายฝ่ายว่าเมืองนครนั้น
ควรจริงจังกับการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์
เพราะมีพระพุทธสิหิงค์องค์สำคัญ 
แถมยังมีองค์อื่น ๆ อีกมากมายอยู่แทบทั่วทั้งเมือง

แล้วยังมีประเพณีพราหมณ์หนึ่งเดียวที่โกแอ๊ดเล่า
จน ททท.ลุกขึ้นมาทำ ทกวันนี้ เทศบาลรับเป็นธูระเรียบร้อยแล้ว

แถมยังมีพระธาตุ
ที่ปีนี้ทางวัดและคณะบุคคลกลุ่มหนึ่ง ลุกขึ้นมาทำกันอีก

ยังไม่คิดถึงที่หน้าเขามหาชัย ใน ม.ราชภัฏนคร
ที่สร้างพระพุทธสิหิงค์องค์ใหญ่ที่สุด ชื่อ "พุทธสิหิงค์มิ่งมหาชัย"
หากจะเกิดอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่น่าจะยาก

เมื่อร้อนมาก ก็มีครบทั้งชายหาดและทะเล
กับป่าเขา น้ำตกและห้วยต่าง ๆ

แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นการประสานจัดการอย่างเป็นระบบที่ดีพอ 
ยังมีลักษณะต่างคนต่างทำ แล้วก็หมดแรงกันไปเรื่อย ๆ

ก็คงปล่อยให้เป็นไปอย่างว่านะครับ

เห็นป้ายที่ศาลาโดหก ตกใจนิดหน่อย
ว่าทุกวันนี้ เขาสาดน้ำพระสิหิงค์กันแล้วหรือ ?

อ่านเอกสารที่เทศบาลพิมพ์ ห่วงใยอีกนิด
เขียนได้ไงว่า

"พระพุทธสิหิงค์ ทั้ง ๓ องค์ ๓ สมัย ๓ ภาค 
สร้างในสมัยเดียวกัน 
คือพระมหากษัตริย์ลังกา ๓ พระองค์
ทรงสร้างเมื่อ พ.ศ.๗๐๐"

และว่าองค์เมืองนครนี้ "เป็นศิลปศรีวิชัย"

สุดท้าย มีคนบอกที่สนามบินว่า
"หมอรู้ไหม สงกรานต์เมืองนครก็เกิดเรื่องอีกแล้ว
เห็นว่าผู้ว่าสั่งระงับการจ้างเหมาจัดงาน"

งานต่าง ๆ จากเดิมที่เราร่วมกันจัด
หวังว่าหลวงและราชการจะร่วมหรือช่วย
พอเขารับมาก ๆ เข้า และเอาไปจัดเองเลย
สุดท้าย กลายเป็นจ้างใครที่ไหนพวกเราไม่ค่อยรู้

แล้วจัดออกมาผิด ๆ ถูก ๆ จนลูกหลานเราเป็นกันอย่างที่เห็น

จะยึดไว้ก็ไม่ไหว จะปล่อยไปก็ไม่วายห่วง
ถึงอย่างไรก็ต้องค่อย ๆ ปล่อยไป.

อิทัปปัจยตา ตถาตา อตัมมยตา

๑๖ เมย.๖๐