เพื่อแผ่นดินเกิด

เดือนหนึ่ง ๆ ผมวนเวียนไปมารอบอ่าวไทยไม่รู้กี่รอบ โดยเฉพาะช่วงสิบวันนี้ ๒๕ ไปงานพุทธทาสศึกษาของ มรภ.สฎ. ๒๖ กลับมางาน อพท.ที่ กทม. ๒๗ ลงไปงานล้ออายุที่สวนโมกข์กรุงเทพ ๒๘ ลงเรือไปงานอัฐมีบูชาแล้วร่วมภาวนาที่ทีปภาวันบนเกาะสมุย ๒๙ กลับมางาน ๒ ศรีพระศาสนาที่สวนโมกข์กรุงเทพ แล้ววันที่ ๑ มิย.ลงส่งลูกสาวกัลยาณมิตรสู่สุคติที่ชุมพร กลับมาต้อนรับนายกกับอุปนายกสมาคมโบราณคดีพม่าด้วยวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังกับวัดเบญจฯและสวนโมกข์กรุงเทพ รวมทั้งรับรองเจ้าของสำนักพิมพ์ใหญ่จากบังคลาเทศที่ท่านทูตแนะนำให้ ก่อนร่วมงานบรรยงพามาสวนโมกข์ บัญชาพาไปชิมนิพพานที่สวนโมกข์กรุงเทพ บ่ายวันที่ ๒ แล้วไปเมืองโบราณสมัยเจนละที่จันทบุรีกับ มจร.ระหว่างวันที่ ๓-๔ แล้วลงไปเมืองนคร เพื่อต้อนรับคณะนักโบราณคดีไทย-ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๕-๖ ตอนนี้กำลังข้ามอ่าวกลับมากรุงเทพ เพื่อให้นิตยสารหนึ่งสัมภาษณ์งานของชีวิต

เมื่อเช้าวันที่ ๕ และวันนี้ ๗ มิย. ท้องฟ้าเหนืออ่าวไทยที่เป็นรูปตัว “ก” นี้ใสพิเศษ มีเมฆหลังฝนหลายห่าบ้างพอสมควร (ยกเว้นขาขึ้นที่หนาไปหน่อยช่วงชุมพร-ประจวบ) ภาคพื้นดินก็ดูชุ่มชื้นกว่าเดือนก่อน แถมเครื่องบินก็วนรอบอย่างสวย ในขณะที่นางฟ้าทั้งภาคพื้นดินและบนเครื่องก็เอื้อเฟื้อที่นั่งตรงหน้าต่าง ไม่ติดปีกให้อย่างดีเยี่ยม ลองไล่ประทักษิณภาวนารอบอ่าวตัว “ก” ปากประตูประเทศไทยไปด้วยกันไหมครับ ?

เมื่อตอนขาทักษิณาวัตรลงไปใต้เวียนขวาตามเข็มนาฬิกา เช้าวันที่ ๕ จากดอนเมือง เครื่องบินตัดวิภาวดีที่แยกหลักสี่ แจ้งวัฒนะ ให้ทัศนาอภิมหาศูนย์ราชการประเทศไทย ไล่ลงไปจนออกก้นอ่าว ไปเจอหมู่เกาะอ่างทองแล้วไล่ตลอดชายฝั่งจนลงที่เมืองนคร ประมาณนี้ครับ

๗ มิย.๕๙

แยกหลักสี่

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

โค้งเจ้าพระยาที่เกาะเกร็ดเห็นตัวเมืองนนทบุรีและติวานนท์

โค้งเจ้าพระยาที่เกาะเกร็ด

 

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทองจากเหนือปลายแหลมเกาะสมุย

ท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย

เกาะแตน

ปลายแหลมประทับ ที่ขนอม บนคาบสมุทรเมืองนคร