logo_new.jpg
ตามที่เล่าแล้วว่ามีลูกปัดเมืองก๊ะอยู่ ๓ กลุ่ม
๒ กลุ่มแรกพบพร้อมกัน อยู่ในหม้อเคลือบ
โดยบอกว่า ที่ห่อผ้าแดงไว้นั้น อยู่ในผอบสำริดในหม้อเคลือบใบนั้น
เหลือแต่จุกฝา กับขอบภาชนะที่บี้แตกหมด
แต่เท่าที่ได้เห็น จุกสำริดนั้นน่าจะเป็นจุกเต้าปูน
ส่วนชิ้นส่วนภาชนะสำริด มีลักษณะเป็นขันปากกว้างมาก
ไม่น่าจะใช่ผอบ และไม่ควรจะอยู่ได้ในหม้อเคลือบ
ความจำของอ้ายหนานหน้อยน่าจะเคลื่อน หรือว่าบอกต่อ ๆ กันมาแบบไม่ได้พินิจ
ที่ศาลาด้านหน้าวัด ตรงที่มี #ศาลขุนหลวงวิลังคะกำลังน้าวเสน้า
มีตู้ร้ายอยู่ใบหนึ่ง เห็นเศษกระเบื้องมากมายอยู่ภายในผ่านกระจก
กุญแจก็หาย ไม่ได้เปิดมานานจนสนิมเขรอะ
แต่ผนังด้านบนผุ พอจกของออกมาส่องดูได้
มี #ลูกปัดหินคาร์เนเลียนลูกเดียว เนื้อไม่ดูดี แถมทรงก็พื้นถิ่นมาก ๆ
น่าจะเป็นของไม่นานมาก ?
แม้จะมีหอยเบี้ยจั่นหลังทะลุอยู่มาก ก็ไม่อยากตีอายุลึกไปไกลเกิน
เพราะหอยนี้ก็ถูกใช้ประมาณนี้เรื่อยมากว่า ๓๐๐๐ ปี จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังได้
แต่ที่เอะใจใหญ่ คือ #ขอบภาชนะชามขันสำริด แบบ #HighTinBronze
ที่พบทั้งที่ #บ้านดอนตาเพชร และ #เขาสามแก้ว
รวมทั้ที่เขต #แดนเขมร ในสมัยขอมเขมรกำลังรุ่ง
และเหมือนกันกับเศษที่อยู่ในห่อผ้าแดงในหม้อเคลือบในวัด
ขณะที่ #ขวานหินขัด ก็เข้ามาทำให้ยากยิ่งขึ้น ว่านี้ยุคสมัยไหนกันแน่ ?
สำหรับ #ขวานกับตะปูเหล็ก สนิมเขรอะนั้น
Yoddanai Sukkasam
บอกว่า พบมากตามแหล่งหลุมของพี่น้องลั๊วะครับ
เอาลิซิครับพี่น้อง
ฝาก อ.
Pipad Krajaejun
คนสั่งให้ผมไปสำรวจรายงานนี้ ตามต่อ
แล้วบอกกันบ้างนะครับผม
ขอบพระคุณ
Dumrong Leenanuruksa
Prakorn Wilai
Apinya Tun
และ
Yoddanai Sukkasam
ผู้สงเคราะห์พาไปนะครับ
๑ ตค.๖๓ ๐๘๔๔ น.
บ้านท่าวัง สะพานควาย กทม.
 
 
 
 
 
Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//